อาการท้องอืดทำให้พุงป๋องจริงหรือไม่

จากเรื่องราวที่หลายๆ คนอยากรู้ว่าอาการท้องอืด ทำให้ พุงป๋องได้ จริงหรือไม่ และเป็นปัญหา กับสาวๆ ที่กำลังมีพุง และ ลดน้ำหนักเท่าไหร่ก็ไม่ลง ลองสำรวจตัวเองก่อนว่า เรากำลังมีอาการผิดปกติอะไรร่วมด้วยหรือไม่

อาการท้องอืดทำให้พุงป๋องได้ อาการท้องอืดเกิดจากการมีแก๊สในช่องท้องมากเกินไป ซึ่งแก๊สเหล่านี้อาจเกิดจากสาเหตุต่างๆ เช่น การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง การดื่มเครื่องดื่มที่มีก๊าซ การกลืนอากาศเข้าไปขณะรับประทานอาหารหรือดื่ม การรับประทานอาหารเร็วเกินไป หรือการมีโรคหรือภาวะอื่นๆ ที่ส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร เช่น โรคลำไส้แปรปรวน โรคกระเพาะอาหารอักเสบ เป็นต้น

เมื่อเกิดอาการท้องอืด แก๊สเหล่านี้จะเข้าไปสะสมในช่องท้องและทำให้ท้องดูบวมหรือป่องขึ้น อาการท้องอืดมักมาพร้อมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดแน่นท้อง เรอบ่อย ท้องเสีย หรือท้องผูก

วิธีแก้อาการท้องอืดสามารถทำได้โดยการปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการดำเนินชีวิต เช่น รับประทานอาหารที่มีกากใยสูงในปริมาณที่พอเหมาะ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ไม่รับประทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มที่มีก๊าซมากเกินไป รับประทานอาหารช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด ไม่กลืนอากาศเข้าไปขณะรับประทานอาหารหรือดื่ม หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีไขมันสูง งดสูบบุหรี่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

หากมีอาการท้องอืดเรื้อรังหรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ปวดท้องรุนแรง ถ่ายอุจจาระเป็นเลือด หรือน้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

ตัวอย่างอาหารที่อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด ได้แก่

  • ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วเขียว
  • กะหล่ำปลี บร็อคโคลี หัวหอม หอมใหญ่
  • ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม เลมอน
  • เครื่องดื่มที่มีก๊าซ เช่น น้ำอัดลม เบียร์ โซดา
  • นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น โยเกิร์ต ชีส
  • อาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารทอด
  • อาหารรสจัด เช่น อาหารที่มีเครื่องเทศหรือซอสปรุงรสเข้มข้น

นอกจากนี้ พฤติกรรมบางอย่างก็อาจทำให้เกิดอาการท้องอืดได้เช่นกัน เช่น การรับประทานอาหารเร็วเกินไป การกลืนอากาศเข้าไปขณะรับประทานอาหารหรือดื่ม การดื่มน้ำอัดลมขณะรับประทานอาหาร การนอนราบหลังรับประทานอาหารทันที

วิธีแก้อาหารท้องอืด และพุงป๋อง

  1. เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
  2. แบ่งอาหารเป็นมือย่อย
  3. กินอาหารที่ช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร
  4. ห้ามดื่มน้ำพร้อมอาหาร
  5. หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่ง

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น