มารู้จักชาเขียวกันนะค่ะ ----> what greentea ?

เครื่องดื่มที่คนนิยมดื่มมากที่สุด คิดว่าเป็นกาแฟ หรือ ชากันค่ะ
คำตอบคือชาค่ะ ชาเป็นเครื่องดื่มที่คนนิยมดื่มกันมากรองลงมาจากน้ำเปล่าเลยทีเดียว ชาแบ่งได้เป็น 3
ประเภทด้วยกัน คือ 1 ชาจีน 2 ชาฝรั่ง 3 ชาเขียว และชาชนิดไหนกันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพเรา ลองมาวิเคราห์แล้วตัดสินใจกันนะค่ะ

กรรมวิธีการผลิต
ชาที่ไม่ผ่านการหมัก คือ ชาเขียว (greentea) ชาที่ไม่ผ่านการหมักดีอย่างไร ทำให้ไม่สูญเสียคุณค่าของสารอาหาร ซึ่งชาเขียวทำการสกัดสารอาหารด้วยกรรมวิธีอบแห้งที่อุณภูมิสูง ซึ่งทำให้ใบชาแห้งซึ่งนำไปทำชา ยังคงมีสีเขียวสดใส ให้คุณค่ามหาศาลเหมือนใบชาสด เมื่อนำมาชงจะไม่มีกลิ่น และมีรสขมกว่าใบชาจีน และมีสีเขียวอมเหลือง

ชาเขียวมีที่ไหนกันบ้าง? แล้วเราจะเลือกรับประทานของที่ไหนดี
มีชาเขียวของประเทศจีน และชาเีขียวของประเทศญี่ปุ่น ชาเขียวทั้งสองแห่งนี้ต่างกันที่การคั่ว คือ ชาเขียวจากเมืองจีนจะทำการคั่วก่อนออกจำหน่าย แต่ชาเขียวแบบญี่ปุ่นไม่จำเป็นตั้องคั่ว ทำให้มีสารอาหารครบครัน
คนจึงนิยมทานชาเขียวจากญี่ปุ่นมากกว่าชาเขียวจากจีน
สารสำคัญในใบชาเขียว
1.กาเฟอีน(cafeein) ---> ในชาเขียวมีประมาณ 2.5% ช่วยกระตุ้นสมองให้สดใส หายจากอาการง่วงซึม และมีฤทธิ์ในการกระตุ้นประสาทและบีบหัวใจ ช่วยในการเผาผลาญทำให้หุ่นสวยเพรียวโดยไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน แต่เนื่องจากชาเขียวมีกาเฟอีน จึงไม่เหมาะกับผู้ป่ายโรคหัวใจ การทานชาเขียวควรเลือกชนิดที่สกัดกาแฟอีนออกเรียบร้อยแล้วแล้ว และพบว่าในการชงชาเขียว 3 นาทีแรกจะให้สารกาแฟอีน 10-50 mg และพบว่าสารที่อยู่ในกลุ่มกาเฟอีนประเภทอื่น ที่มีคุณสมบัติช่วยในการกระตุ้นไตให้ขับปัสสาวะมากขึ้น และช่วยในการขยายหลอดลมอีกด้วย

2.แทนนิน ----> หากต้มชาเขียวทิ้งไว้นานๆ จะมีสารแทนนินออกมาในปริมาณมาก ส่งผลให้มีรสขมมาก แต่หากการรับประทานชาเขียวเพื่อประโยชน์ในการขับถ่าย ก็ควรต้มชาเขียวทิ้งไว้นานๆ เพราะจะมีสารเทนนินออกมาปริมาณมากส่งผลให้การขับถ่ายดียิ่งขึ้น ซึ่งแทนนินมีประโยชน์ในการขยายผนังหลอดเลือด และเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหัวใจ เหมาะกับผู้ที่มีภาวะความดันโลหิตสูง

3.สารแคทิซิน (catechins) -----> เป็นสารแทนนินชนิดหนึ่งมีฤทธิ์ในการต้านการเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหาร จากผลการวิจัยของประเทศญี่ปุ่นพบว่า การดื่มชาจะไปช่วยยับยั้งการสร้างไนโตรซามีน อันเป็นบ่อเกิดของมะเร็งในกระเพาะอาหาร ซึ่งผู้ที่นิยมรับประทานเนื้อสัตว์เป็นประจำก็มักจะต้องทานชาเขียวตามเข้าไปด้วย ผลการวิจัยนี่พบว่าผู้คนในประเทศญี่ปุ่นมีความนิยมในการดื่มชาเขียวหลังการับประทานพวกเนื้อสัตว์ จึงมีอัตราการเกิดมะเร็งในกระเพาะอาหารที่ต่ำกว่าเกณฑ์มาก
และจากการทดลองกับหนูพบว่าสารแคทิซินทำให้หนูขับถ่ายออกมาเป็นไขมันและคลอเรสเตอรอล ดังนั้นนักวิทยาศาสตร์จึงเชื่อว่าชาเขียวมีส่วนช่วยใจการลดคลอเลตเตอรอลในเส้นเลือดได้ แต่กลไกลการทำงานยังไม่มีข้อรับรอง

4.ในใบชายังมี ปริมาณแร่ธาตุฟลูออกไรด์สูง ซึ่งแร่ธาตุชนิดนี้เป็นส่วนในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง นักวิจัยจากศูนย์ทันตกรรมฟอร์ซีธ ในบอสตัน โดยถ้าคุณแช่ถุงชาหรือใบชาไว้นาน 3 นาทีก่อนดื่ม ชาจะสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรียซึ่งทำให้เกิดฟันผุได้ถึงร้อยละ 95 จะเห็นได้ว่าการดื่มชาเขียวจึงน่าจะมีส่วนช่วยในการป้องกันฟันผุได้

การดูดซึมสารอาหารในใบชาจะเกิดขึ้นได้ถึง 90% และจะกระจายไปในเนื้อเยื่อภายใน 5 นาที ผลการออกฤทธิ์ในช่วง 6-14 ชั่วโมง

ข้อควรระวังในการดื่มชา : การดื่มชาเขียวในปริมาณสูงอาจมีผลในการลดการดูดซึมวิตามิน B1 และ ธาตุเหล็กได้


คุณประโยชน์ของชาเขียวมีมหาศาลคุ้มค่าแก่การลงทุนเพื่อสุขภาพหรือไม่ ก็ลองพิจารณากันดูนะค่ะ แต่อย่าลืมว่าการรับประทานก็ต้องอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะด้วยนะค่ะ

ปล.
ต้องขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก กินเพื่อสุขภาพ เดลินิวส์ โดย พร้อมลักษณ์ สรรพ่อค้า

รีวิวเพิ่มเติมจากประสบการณ์ีที่เห็นผู้ดื่มชาเขียว ถ้าเป็นผู้หญิงวัย 30 up ก็จะดูภายนอกเหมือนวัย 20 ปลายๆ เท่านั้น เพียงชงชาเขียววันละแก้วในช่วงเช้า สาวๆ กัวความแก่ชรา็ก็ลองนำเทคนิคนี้ไปใช้ดูนะค่ะ

ชีวาบิวตี้(chivabeauty)
08-07-2010 เวลา 15:30






แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น